วันแรก |
หาดใหญ่ไปวัดช้งให้และไปเที่ยวซิตี้ทัวร์ในเบตง |
08.00 น. |
รับคณะที่สนามบินหาดใหญ่ หรือในตัวเมืองหาดใหญ่จากนั้นเดินทางสู่ จังหวัดปัตตานี (ระยะทาง 116 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.45 นาที) |
เมื่อ |
เดินทางถึง วัดช้างให้ เป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างมาแล้วกว่า 300 ปี วัดช้างให้ ถือว่าเป็นวัดต้นตำรับของหลวงปู่ทวด เพราะท่านเป็นเจ้าอาวาสองค์แรกของวัดและอัฐิของท่านก็ถูกบรรจุไว้ที่วัดแห่งนี้ วัดช้างให้จึงกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อและเป็นอีกหนึ่ง
สัญลักษณ์ของจังหวัดปัตตานี ที่มีนักท่องเที่ยวเข้า |
เที่ยง |
บริการอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (1) |
จากนั้น |
นำคณะเดินทางต่อสู่ อ.เบตง จังหวัดยะลา ดินแดนใต้สุดแดนสยาม
เส้นทางที่มีความสวยงามร่มรื่นด้วยต้นไม้และวิถีมุสลิม 3 จังหวัดชายแดนใต้ |
แวะ |
ชม สะพานโต๊ะกูแซ หรือที่เรียกว่า สะพานเขื่อนบางลาง บริเวณบ้านคลองช้างกับบ้านป๋อง ต.แม่หวาด อ.ธารโต ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทางหลวงหมายเลข 410 ยะลา-เบตง เขื่อนบางลางเป็นเขื่อนที่สร้างขึ้นเพื่อกั้นแม่น้ำปัตตานีตามแผนพัฒนา
โครงการไฟฟ้าพลังน้ำเอนกประสงค์แห่งแรกทางภาคใต้ ระยะทาง 96 กิโลเมตร |
แวะ |
ชม สะพานแตปูซู เป็นสะพานแขวนไม้ข้ามแม่น้ำปัตตานี ที่ชาวบ้านบริเวณนี้ยังคงใช้สัญจรไปมาตามปกติ เดินชมวิวริมแม่น้ำปัตตานี ท่ามกลางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์มีความสดชื่นเบาๆ |
จากนั้น |
เดินทางสู่ อุโมงค์ปิยะมิตร เป็นอุโมงค์ดินที่อดีตขบวนการโจรคอมมิวนิสต์มลายา สร้างขึ้นสำหรับเป็นฐานปฎิบัติการต่อสู่ทางการเมือง
แต่ต่อมาได้กลับมาร่วมพัฒนาชาติไทย อุโมงค์ปิยมิตร สร้างเมื่อปี พ.ศ.2519 ใช้หลบการโจมตีทางอากาศและสะสมเสบียงในปัจจุบันได้เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยว และยังมีต้นไทรพันปี มีความสวยงามแปลกตา มีโพรงขนาดใหญ่จำนวน 2 โพรง
ให้เดินเข้าไปได้ |
เมื่อ |
ได้เวลาที่เหมาะสม พาคณะเดินทางสู่ สวนหมื่นบุปผา หรือเรียกว่า
สวนไม้ดอกเมืองหนาวเบตง เป็นสวนดอกไม้เมืองหนาวแห่งเดียวในภาคใต้ เนื่องจากเบตงมีสภาพอากาศที่เหมาะสมด้วยสภาพภูมิประเทศ
ที่อยู่สูงจากระดับทะเลปานกลางราว 800 เมตร ซึ่งมีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี ระบบน้ำเพียงพอ จึงมีความเหมาะสมกับการปลูงไม้ดอกเมืองหนาวนานาชนิด สวนดอกไม้นี้อยู่ท่ามกลางภูเขา ในโครงการตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่มีดอกไม้นานาพันธุ์บานสะพรั่ง |
จากนั้น |
แวะถ่ายรูปที่ ป้าย OK BETONG จุดสัญญาลักษณ์หรือแลนด์มาร์คอีกหนึ่งจุดในเบตง เมื่อมาแล้วควรมีรูปถ่ายคู่กับ
ป้าย OK BETONG นี้ |
|
เมื่อได้เวลาที่เหมาะสมพาคณะเดินทางสู่ จุดถ่ายรูปกับ หอนาฬิกาเมืองเบตง สัญญาลักษณ์จุดศูนย์กลางของเมืองเบตงสร้างจากหินอ่อนสีขาวนวลจากเมืองยะลา
ชม ตู้ไปรษณีย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งก็ตั้งอยู่บริเวณแยกหอนาฬิกาตั้งแต่ปี พ.ศ.2482 ก่อนสมัยสงครามโลกครั้งที่2 ก่อสร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กส่วนที่เป็นตัวตู้ไม่รวมฐาน
มีเส้นรอบวง 140 ซม. และสูง 290 ซม. |
|
ชม อุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์ อุโมงค์รถยนต์ลอดภูเขาผ่านได้แห่งแรกของประเทศไทย อุโมงค์จะมีการขุดทอดโค้งให้รถวิ่งซึ่งนี่ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่ง
ที่ทำให้เบตงมีเสน่ห์ต่างจากเมืองอื่นๆ อุโมงค์นี้เปิดใช้เมื่อ 1 ม.ค.2544 สร้างขึ้นเพื่อแก้ปัญหาการจราจรระหว่างเมืองเกากับเมืองใหม่
ขุดโค้งทอดยาวประมาณ 273 เมตร กว้าง 9 เมตร สูง 7 เมตร มีทางเดินทางอยู่ภายใน ดูดีมีเสน่ห์กว่าอุโมงค์สมัยใหม่ |
ค่ำ |
บริการอาหารค่ำ ณ ร้านอาหาร (2) |
พัก |
เข้าสาที่พัก ณ โรงแรมแกนด์แมนดาริน ระดับ 4 ดาว |
วันที่สอง |
เที่ยวอัยเยอร์เวง และซิตี้ทัวร์เบตงก่อนเดินทางไปปีนัง |
04.30 น. |
ตื่นแต่เช้า เพื่อเดินทางสู่ Sky Walk อัยเยอร์เวง เพื่อชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า ซึ่งที่นี่เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกยอดนิยมของเบตงที่เดินทางสะดวก
รถขึ้นถึงและมัทะเลหมอกให้ชมตลอดทั้งปี อยู่ห่างจากตัวอำเภอเบตง ประมาณ 40 กิโลเมตร ในพื้นที่ของเขาไมโครเวฟ มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 2,038 เมตร เป็นทะเลหมอกที่ใหญ่และสวยงาม |
07.30 น. |
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม หรือร้านอาหาร (3) |
09.00 น. |
เดินทางสู่ วัดพุทธาธิวาส เดิมชื่อ วัดเบตง เป็นวัดที่มีชัยภูมิดีมากตั้งอยู่บนเนินเขา เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองเบตงเชิญท่านสักการะ
พระมหาธาตุเจดีย์พระพุทธธรรมประกาศ ที่หมายถึง การประกาศธรรมของพระพุทธเจ้า ลักษณ์เจดีย์ก่อสร้างแบบศรีวิชัยประยุกต์ สีทองอร่าม สูง 39.9 เมตร ภายในเจดีย์ชั้นบนสุดบรรจุ พระบรสารีริกธาตุ และมีพระพุทธธรรมประกาศเป็นพระประทาน มีรอยพระพุทธบาทขนาดใหญ่อยู่ที่ชั้นล่าง
สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองถวายแด่สมเด้จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงในวโรกาสพระชนมายุครบ 60 พรรษา จากเจดีย์สามารถมองเห็นทัศนียภาพของวัดและเมืองอีกมุมหนึ่งได้สวยงาม |
|
ชม สตรีทอาร์ต ภาพสตรีทอาร์ต เล่าวิถีของผู้คน อาคารบ้านเรือนที่มีสถาปัตยกรรมอันเป็นเอกลักษณ์ ท่ามกลางวิวทิวทัศน์ที่สวยงามกลางหุบเขา |
จากนั้น |
นำท่านเดินทางสู่ ปีนัง เมื่อเดินทางถึงด่านตรวจคนเข้าเมือง แวะถ่ายรูปที่ ป้ายใต้สุดแดนสยาม ไว้เป็นที่ระลึก ซึ่งหลักเขต ป้ายใต้สุดแดนสยาม ตั้งอยู่บริเวณ ชายแดนปลายสุดถนนสุขยางค์ ตามทางหลวงหมายเลข 410 ห่างจากตัวเมืองประมาณ 7 กิโลเมตร เป็นเขตแดนระหว่างอำเภอเบตง กับรัฐเปรัค ประเทศมาเลเซีย |
เที่ยง |
รับประทานอาหารเที่ยง ณ ร้านอาหาร (4) |
จากนั้น |
เดินทางสู่ สะพานปีนัง ที่เชื่อมแผ่นดินทั้งสองส่วนเข้าหากันด้วยระยะทางยาวกว่า 13.5 กิโลเมตรไปขึ้นฝั่งที่เมืองไปร์ ให้เป็นสะพานข้ามทะเลที่ยาวที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นำท่านชมอาคารบ้านเรือนของชาวปีนังซี่งมีความหลากหลาย
ทางวัฒนธรรมมีประวัติศาสตร์เกี่ยวข้องกับชาติตะวันตก เกาะปีนังจึงเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกรู้จักกันดี จึงได้ขนานนามให้เป็น ไข่มุกแห่งตะวันออก |
|
แวะเพลิดเพลินกับการถ่ายรูปมุมสวยๆ และเลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองและของที่ระลึกเมืองปีนัง ณ หมู่บ้านประมง (Chew Jetty) เป็นหมู่บ้านชาวประมงที่ยื่นออกไปในทะเลพร้อมสัมผัสกับไออุ่นของทะเล |
|
เพลิดเพลินกับการนั่งรถรางสู่ ยอดเขาบูเก็ตปันเดรา (Penang Hill) (ยังไม่รวมค่าขึ้น) ตื่นตาตื่นใจกับจุดชมวิว ทัศนียภาพที่สวยที่สุดของเกาะปีนัง |
ค่ำ |
รับประทานอาหารค่ำ ณ ร้านอาหาร (5) |
พัก |
เข้าพัก ณ NEO HOTEL หรือ ระดับเดียวกัน |
วันที่สาม |
เที่ยวปีนังแล้วส่งกลับหาดใหญ่ |
07.00 น. |
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (6) |
08.00 น. |
นำท่านเที่ยวชม ปีนังสตรีทอาร์ท ชมภาพวาด 3 มิติ (3D) ซึ่งสามารถพบเห็นภาพวาดต่างๆ ได้ตามกำแพงข้างถนน ผนังบ้านและตึก ประตู หนเต่าง และอื่นๆ โดยภาพวาดส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับอิริยาบถต่างๆของเด็กๆ ไม่วาจะเป็น ภาพเด็กปั่นจักรยาน ภาพเด็กผู้หญิงกำลังผลักดันตัวเองขึ้นไปบนหน้าต่างสิงบาน ภาพเด็กกำลังปีนเก้าอี้เพื่อหยิบสิ่งของ และอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก พร้อมถ่ายภาพเป็นความทรงจำและเป็นที่ระลึก |
|
ได้เวลานำท่านเข้าชมสถาปัตยกรรมอันงดงามระหว่างสองประเทศ คือ วัดไชยมังคลาราม หรือวัดไทย เป็นวัดเก่าแก่อายุ กว่า 161 ปี มีพระนอนที่ยาวที่สุดในมาเลเซีย ที่มีความยาวถึง 108 ฟุต และ วัดธรรมิการาม หรือ วัดพม่า มีพระพุทธรูปยืนสลักจากหยกสีขาว พร้อมเลือกซื้อของที่ระลึกมากมาย |
|
ช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมือง Local Product อาทิ เช่น บักกุ๊ดเต๋ ขนมเปี้ยะ ช้อกโกแลต เป็นต้น |
เที่ยง |
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (7) |
บ่าย |
จากนั้นพาคณะเดินทางกลับสู่ ด่านสะเดา |
แวะ |
เพลิดเพลินกับการช๊อปปิ้งสินค้าปลอดภาษี นานาชนิด ณ ห้างปลอดภาษี ZONE Dutyfree |
18.00 น. |
เมื่อเดินทางถึง ด่านสะเดา ผ่านการตรวจคนเข้าเมือง จากนั้นเดินทางต่อสู่ หาดใหญ่ |
19.00 น. |
เดินทางถึงหาดใหญ่ หรือ สนามบินหาดใหญ่ โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ |